วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต




เครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต

1. เครือข่ายคอมพิวเตอร์

   1.1. ความหมายและองค์ประกอบของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 
           เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (computer net-work) หมายถึง การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงเข้าด้วยกันโดยใช้สื่อกลางต่างๆ

เครือข่ายคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกได้ 6 ประเภท ดังนี้
      1. เครือข่ายเฉพาะที่ หรือแลน (local area network : LAN)
      2. เครือข่ายนครหลวง หรือแมน (metropolitan area network : MAN)
      3. เครือข่ายบริเวณกว้าง หรือแวน (wide area network : WAN)
      4. เครือข่ายภายในองค์กร หรืออินทราเน็ต (intranet)
      5. เครือข่ายภายนอกองค์กร หรือเอ็กทราเน็ต (extranet)
      6. เครือข่ายอินเทอร์เน็ต (internet)

  1.2. การเลือกใช้ฮาร์ดแวร์ของระบบเครือข่ายขนาดเล็ก
      1. อุปกรณ์ในระบบเครือข่ายขนาดเล็ก 
         1.1. การ์ดแลน (LAN card) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รับส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปสู่คอมพิวเตอร์อรกเครื่องหนึ่งโดยผ่านสายแลน

  

   



 1.2. ฮับ (hub) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เสมือนกับชุมทางข้อมูล มีหน้าที่เป็นตัวกลางคอยส่งข้อมูลให้คอมพิวเตอร์ในเครือข่าย
 
         1.3. สวิตช์ (switch) เป็นอุปกรณ์รวมสัญญาณเช่นเดียวกับฮับ แต่ต่างจากฮับ คือ การรับส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งนั้นจะไม่กระจายไปยังทุกเครื่อง เนื่องจากข้อมูลจะตรวจสอบก่อนว่าเป็นของเครื่องใด แล้วจึงส่งไปยังปลายทาง

         1.4. โมเด็ม (modem) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณเพื่อให้สมมารถส่งผ่านสายโทรศัพท์ได้

         1.5. อุปกรณ์จัดเส้นทางหรือเราเตอร์ (router) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมโยงเครือข่ายหลายเครือข่ายเข้าด้วยกัน เราเตอร์ทำหน้าที่เลือกเส้นทางที่ดีที่สุด

         1.6. สายสัญญาณ (cable) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการรับส่งข้อมูล
2. การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายขนาดเล็ก
         2.1. การเชื่อมต่อเครือข่ายระยะใกล้  หากมีคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายไม่เกินสองเครื่อง อุปกรณ์ในระบบเครือข่ายนอกจากเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว ยังต้องมีการ์ดแลนและสายสัญญาณ โดยไม่ต้องใช้ฮับและสวิตช์ เพราะถ้ามีคอมพิวเตอร์สองเครื่อง ก็สามารถเชื่อต่อโดยใช้สายไขว้ (cross line)
         2.2. การเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกล จากข้อกำจัดของเครือข่ายที่ใช้สายแลนที่ไม่สามารถเดินสายให้มีความยาวมากกว่า 100 เมตรได้ จึงต้องหาทางเลือกสำหรับระบบเครือข่ายระยะไกล ดังนี้
   - แบบที่ 1 คือ ต้องติดตั้งเครื่องทวนสัญญาณ (repeater) ไว้ทุกๆระยะ 100 เมตร
แบบที่ 2 ใช้โมเด็ลหมุนโทรศัพท์เข้าหากันเมื่อต้องการเชื่อมต่อและเมื่อเสร็จสิ้นธุรกิจแล้วก็ยกเลิกการเชื่อมต่อ
   - แบบที่ 2 คือ ใช้โมเด็มหมุนโทรศัพท์เข้าหากันเมื่อต้องการเชื่อมต่อ เละเมื่อเสร็จสิ้นก็ยกเลิกการเชื่อมต่อ
แบบที่สาม ถือว่าเป็นเทคโนโลยีระบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในปัจจุบันสายสัญญาณที่เลือกใช้ คือ สายใยแก้วนาแสง
   - แบบที่ 3 คือ เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในปัจจุบันสายสัญญาณที่เลือกใช้ คือ สายใยแก้วนำแสง สามารถส่งข้อมูลระยะไกลได้และมีความเร็วสูง
แบบที่ 4 ใช้จุดเชื่อมต่อแบบไร้สายเป็นการเชื่อมต่อโดยใช้สัญญาณวิทยุทางอากาศแทนการใช้สายโทรศัพท์เพื่อลดปัญหาจากการใช้สายสัญญาณ
   - แบบที่ 4 คือ ใช้จุดเชื่อมต่อแบบไร้สาย (wireless lan) เป็นการเชื่อมต่อโดยใช้สัญญาณวิทยุทางอากาศแทนการใช้สายโทรศัพท์
แบบที่ 5 การใช้เทคโนโลยี G.SHDSL ในการเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกล
   - แบบที่ 5 คือ เทคโนโลยี G.SHDSL ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีตะกูล DSL (Digital Subscriber Line) เป็นเทคโนโลยีโมเด็มที่ทำให้คู่สายทองแดงกลายเป็นสื่อสัญญาณดิจิทัลความเร็วสูง
แบบที่ 6 การใช้เทคโนโลยีแบบ ethernet over VDSL ในการเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกล
   - แบบที่ 6 คือ เทคโนโลยีแบบ ethernet over VDSL เป็นเทคโนโลยีระบบเครือข่ายแบบล่าสุดที่สามารถจะติดตั้งใช้งานได้เอง สามารถเชื่มอต่อใช้กับโทรศัพท์ได้
1.3 การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ของระบบเครือข่ายขนาดเล็กการเลือกใช้ซอฟต์แวร์ของระบบเครือข่ายขนาดเล็ก สามารถเลือกใช้ระบบปฏิบัติการแ...
 1.3. การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ของระบบเครือข่ายขนาดเล็ก    
      1. ระบบปฏิบัติการลินุกซ์ เซ็นโอเอส (Linux community enterprise operating system)
          นิยมเรียกย่อว่า CentOS ซึ่งช่วยประหยัดงบประมาณขององค์กร เนื่องจาก CentOS เป็นซอฟแวร์เปิดเผยโค้ด (open source software) ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดโค้ดไปใช้่งานโดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ 
       2. ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ (Windows server) ปัจจุบันถูกพัฒนาเป็น windows Server 2008 ซึ่งออกแบบมาเพื่อนสนับสนุนระบบเครือข่าย แอพพลิเคชันและบริการอื่นๆ ที่มีความทันสมัยบนเว็บไซต์ โดยมีคุณสมบัติเด่น ดังนี้
       1. สร่างโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับภาระงานของเซิร์ฟเวอร์ รวมถึงความต้องการด้านแอพพลิเคชันต่างๆด้วย
       2. เวอร์ชวลไลเซซั่น (virtualization) เป็นการสร้างระบบเสมือนจริงที่มีรากฐานจากระบบ hypervisor ช่วยให้สามารถรวมเซิร์ฟเวอร์และใช้งานฮาร์ดแวร์ได้อย่างเต็มที่
       3. มีระบบจัดการและดูแลเว็บ และแอพพลิเคชันที่ได้รับการพัฒนามากขึ้น
       4. ระบบความปลอดภัย ได้รับการพัฒนาให้มีความทนทานมากขึ้น พร้อมทั้งผสานการใช้เทคโนโลยีด้าน IDA หลายชิ้น

2. อินเทอร์เน็ต

2.1. ความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
      
อินเทอร์เน็ตกําเนิดขึ-นเมื อประมาณปี ค.ศ.1969 หรือประมาณปี พ.ศ. 2512 โดยพัฒนามาจาก อาร์ พาเน็ต (ARPAnet) ซึ งเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายใต้ความรับผิดชอบของหน่วยงานโครงการวิจัยขั-นสูง (Advanced Research Projects Agency) หรือเรียกชื อย่อว่า อาร์พา (ARPA) ซึ งเป็นหน่วยงานในสังกัด กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา (Department of Defense) จุดประสงค์ของโครงการอาร์พาเน็ต เพื อ สร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที คงความสามารถในการติดต่อสื อสารถึงกันได้ แม้ว่าจะมีบางส่วนของเครือข่าย ไม่สามารถทํางานได้ก็ตาม อาร์พาเน็ตในขั-นต้นเป็นเพียงเครือข่ายทดลองตั-งขึ-นเพื อสนับสนุนงานวิจัยด้านการทหาร แต่โดย เนื-อแท้แล้วอาร์พาเป็นผลพวงมาจากความตึงเครียดทางการเมืองของโลก ในยุคสงครามเย็นระหว่างค่าย คอมมิวนิสต์และค่ายเสรีประชาธิปไตย ต่อมาในปี 2512 ได้มีการปรับปรุงหน่วยงานอาร์พาและเรียกชื อใหม่ ว่า ดาร์พา (DARPA : Defense Research Project Agency ) และในปี 2518 ดาร์พาได้โอนหน้าที ดูแล รับผิดชอบอาร์พาเน็ตโดยตรงให้แก่ หน่วยสื อสารของกองทัพ (Defense Communications Agency) หรือ DCA เนื องจากอาร์พาเน็ตได้แปรสภาพจากเครือข่ายที ปฏิบัติงานได้อย่างแท้จริงแล้ว ในปี 2526 อาร์ พาเน็ตแบ่งออกเป็น 2 เครือข่าย คือ เครือข่ายด้านการวิจัยใช้ชื อ อาร์พาเน็ตเหมือนเดิม ส่วนเครือข่ายของ กองทัพใช้ชื อว่า "มิลเน็ต" (MILNET : MILitary NETwork) ซึ งใช้การเชื อมต่อโดยใช้โปรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol / Internet Protocol ) เป็นครั-งแรก ในปี 2528 มูลนิธิวิทยาศาสตร์ แห่งชาติอเมริกา (NSE) ได้ออกทุนการสร้างศูนย์ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ 6 แห่ง และใช้ชื อว่า NFSNET พอม
   

   2.2. บริการบนอินเทอร์เน็ต

      1. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเมล (electronic mail or e-mail) เนื่องจากในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั้นมีการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หลายเครื่องเข้าด้วยกัน ทำให้การส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ด้วยกันสามารถทำได้ง่าย

      2. เมลลิงลิสต์ (mailing list) เป็นเสมือนเครื่องมือที่ใช้กระจายข่าวสารและข้่อมูลเฉพาะกลุ่ม

      3. การสื่อสารในเวลาจริง (realtime communication) เป็นการสื่อสารกันที่สามารถโต้ตอบกลับได้ทันทีผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น แชท (chat)

      4. เว็บไซต์เครือข่ายทางสังคม (social networking web site) เป็นชุมชนออนไลน์ที่กลุ่มคนรวมกันเป็นสังคม เช่น facebook

      5. บล็อก (blog) ย่อมาจากคำว่า เว็บบล็อก (webblog) เป็นเว็บไซต์ที่ใช้เขียนบันทึกเรื่องราว เพื่อสื่อสารความรู้สึก มุมมอง เรียกว่า ไดอารี่ออนไลน์ (diary online)

      6. วิกิ (wiki) เป็นรูปแบบการเผยแพร่ข้อมูลที่บุคคลต่างๆ ที่มีความรู้ในแต่ละเรื่องมาให้ข้อมูล เช่น wikipedia

      7. บริการเข้าใช้ระบบคอมพิวเตอร์ระยะไกล (remote login/telnet) บริการนี้อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปทำงานต่างๆ ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งผ่านทางคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งที่เชื่อมต่ออยู่ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นจะอยู่ใกล้หรือไกลกันก็ตาม
      8. การโอนย้ายข้อมูล (file transfer protocol : FTP) เป็นการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง ซึ่งอาจจะอยู่ใกล้หรือไกล
9. บริการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร หรือ ยูสเน็ต (usenet) เป็นอีกบริการหนึ่งบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีลักษณะเป็นกลุ่มสนทนา เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารกันบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
  

      10. เวิลด์ไวด์เว็บ (world wide web) ซึ่งอาจเรียกย่อว่า เว็บ (web) เป็นบริการเพื่อการค้นหาข้อมูลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน เป็นการให้บริการข้อมูลแบบไฮเปอร์เท็กซ์ (hypertext) เป็นวิธีการที่จะเชื่อมโยงข้อมูลจากเอกสารหนึ่งไปข้อมูลของอีกเอกสารหนึ่ง

      11. พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (electronic commerce หรือ e-commerce) เป็นการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าและบริการบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยนำเสนอสินค้าและบริการทางเว็บไซต์

   2.3. คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต
      1. จรรยาบรรณในการใช้อินเทอร์เน็ต (netiquette)
      1.1. จรรยาบรรณสำหรับผู้ใช้ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ 
      - ตรวจสอบกล่องรับไปรษณีย์ทุกวัน จำกัดจำนวนไฟล์และข้อมูลในตู้จดหมาย
      - ลบข้อความหรือจดหมายที่ไม่ต้องการทิ้ง
      - โอนย้ายจดหมายจากระบบไปไว้ยังเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
      - พึงระลึกไว้เสมอว่าจดหมายที่เก็บไว้ในตู้จดหมายนี้อาจถูกผู้อื่น
      - ไม่ควรจะส่งจดหมายกระจายไปยังผู้รับจำนวนมาก

      1.2. จรรยาบรรณสำหรับผูั้สนทนาผ่านเครือข่าย
   - ควรสนทนากับผู้ที่รู้จักและต้องการสนทนาด้วยเท่านั้น
   - ก่อนการเรียกคู่สนทนา ควรตรวจสอบสถานะการใช้งานของคู้สนทนาก่อน
   - หลังการเจรียกคู่สนทนาไปแล้ว ไม่ตอบกลับมาแสดงว่าเขาอาจติดธุระอยู่
   - ควรใช้วาจาสุภาพ

      1.3 จรรยาบรรณสำหรับผู้ใช้กระดานข่าวหรือกระดานสนทนา
   - เขียนเรื่องให้กระชับ ใช้ข้อความสั้น
   - ไม่ควรเขียนข้อความพาดพิงถึงสถาบันของชาติในทางที่ไม่สมควร
   - ให้ความสำคัญในเรื่องลิขสิทธิ์
   - ไม่ควรสร้างข้อความเท็จ
   - ไม่ควรใช้เครือข่ายส่วนรวมเพื่อใช้ประโยชน์ส่วนตน

     
 2. บัญญัติ 10 ประการในการใช้งานคอมพิวเตอร์ 
   1. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายผู้อื่น
   2. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์รบกวนการทำงานของผู้อื่น
   3. ไม่เปิดดูข้อมูลในแฟ้มของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
   4. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
   5. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
   6. ไม่คัดลอกโปรแกรมของผู้อื่น
   7. ไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์
   8. ไม่นำเอาผลงานคนอื่นมาเป็นของตัวเอง
   9. คำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอันเป็นผลมาจากการกระทำของตน
   10. ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดนเคารพกฎ ระเบียบ กติกา

       กฎหมายเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ มี 6 ฉบับ ดังนี้
1 กฎหมายเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
2 กฎหมายเกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
3 กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
4 กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
5 กฎหมายว่าด้วยอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
6 กฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ

      กฎหมายทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
โอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ
สรุปเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 คือ การนําคอมพิวเตอร์ตั-งแต่ 2 เครื องขึ-นไป มาเชื อมต่อกันด้วยอุปกรณ์ สื อสาร โดยการเชื อมต่อกันนี- อาจมีเฉพาะกลุ่มเครื องคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์อื น ๆ เช่น เครื องพิมพ์ เป็นต้น ผู้ใช้งานสามารถแลกเปลี ยนข้อมูลซึ งกันและกันในเครือข่ายและใช้อุปกรณ์ที เชื อมต่อ กับเครือข่ายนั-นได้ ประวัติของอินเทอร์เน็ต 
สรุปประวัติของอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต (internet) มาจากคำว่า interconnection network หมายถึง การใช้ประโยชน์ของระบบเครือข่ายที่นำเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องมาเชื่อมต่อกันโดยผ่านสื่อกลางชนิดใดชนิดหนึ่ง

แบบทดสอบเรื่องเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต


    การสื่อสารใดใช้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 


      ข้อความใดเป็นประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 


      สิ่งใดไม่ใช่องค์ประกอบพื้นฐานของระบบการสื่อสารข้อมูล 


      การรับ-ส่งข้อมูลใช้ลักษณะการสื่อสารแบบใด 


      สายนำสัญญาณชนิดใดที่ไม่ใช้สัญญาณไฟฟ้าในการส่ง 


      เครือข่ายใดเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใช้ส่วนบุคคล 

      อุปกรณ์การสื่อสารชนิดใดทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงเครือข่ายหลายเครือข่ายเข้าด้วยกัน เพื่อนำส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายต่างๆ ไปยังอุปกรณ์ปลายทาง 

      • การใช้งานอินเทอร์เน็ตในลักษณะใดเป็นการเชื่อมต่อแบบไร้สาย 


        ชื่อโดเมนระดับบนสุดแบบใดที่ระบุได้ว่าเป็นโดเมนที่อยู่ในประเทศไทย 


        บริการบนอินเทอร์เน็ตแบบใดที่ผู้ใช้บันทึกข้อมูล เหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน และผู้อื่นสามารถเข้ามาแสดงความคิดเห็นได้ 


        การกระทำใดสามารถป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ 


        ข้อใดที่เป็นปัญหาจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต 


        โพรโทคอลพื้นฐานที่ใช้ในการสื่่อสารบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ตรงกับข้อใด 


        เกี่ยวกับเลขที่อยู่ไอพี ข้อใดกล่าวผิด 

        หากต้องการสื่อสารระหว่างบุคคล โดยสามารถโต้ตอบกลับได้ทันที พร้อมส่งไฟล์ผ่านเครือข่าย ควรใช้บริการอินเทอร์เน็ตในข้อใด